วิหารของนางพรศรี บรรจงวาดด้วยสีสันอ่อนหวาน และลวดลายอันประณีต

 วิหารของนางพรศรี บรรจงวาดด้วยสีสันอ่อนหวาน และลวดลายอันประณีต

ในยุคสมัยที่ศิลปะจีนกำลังเฟื่องฟูและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อันเป็นช่วงห้าถึงหกศตวรรษของคริสต์ศักราช หากใครได้ยลช่อพระบรมสารีริกธาตุอันงดงามที่สร้างขึ้นโดยศิลปินผู้มีฝีมือเยี่ยม “Sun Quan” (ซุนกว่าน) จะต้องตะลึงในความละเอียดอ่อนและความยิ่งใหญ่ของงานชิ้นนี้

“วิหารของนางพรศรี” (Pavilion of Lady Prosperity) ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของซุนกว่าน และเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการใช้สีสันอ่อนหวานและลวดลายอันประณีต

วิหารแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่จริง แต่เป็นภาพวาดบนผืนไหมขนาดใหญ่ แสดงภาพวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนที่มีดอกไม้บานสะพรั่งและต้นไม้น้อยใหญ่

ซุนกว่านได้ใช้สีน้ำเงินอ่อน, สีชมพู, และสีเขียวอ่อนเพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบสุขและเป็นธรรมชาติ

วิหารถูกวาดด้วยเส้นสายที่เรียบเนียนและรายละเอียดที่โดดเด่น เช่น กระเบื้องหลังคาที่ทำจากกระเบาะดินเผา, คานประตูที่แกะสลักอย่างประณีต และหน้าต่างกระจกใสที่ 반사แสง

ภายในวิหารมีรูปปั้นของนางพรศรี (Lady Prosperity) ที่ยืนอยู่ตรงกลาง โอบอ้อมด้วยดอกไม้และสัตว์มงคล

ซุนกว่านได้ใช้สีทองเพื่อเน้นความสำคัญของรูปปั้น และลวดลายดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับองค์พระ

นอกจากวิหารแล้ว ซุนกว่านยังวาดภาพผู้คนในชุดจีนโบราณที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวน, เล่นดนตรี, หรือดื่มชา

ภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวันของชนชั้นสูงในสมัยราชวงศ์sui

การตีความและความหมาย

“วิหารของนางพรศรี” ไม่เพียงแต่เป็นงานศิลปะที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมี

ความหมายเชิงสัญลักษณ์หลายอย่าง

  • ความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง: นางพรศรี เป็นเทพีแห่งโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ วิหารของนางจึงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง

  • ความสงบสุขและความสมดุล: สวนดอกไม้, ต้นไม้อ้อย, และน้ำตกในภาพวาด สร้างบรรยากาศที่สงบสุขและเป็นธรรมชาติ ซึ่งสื่อถึงความสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

  • ความงามของศิลปะจีนโบราณ: “วิหารของนางพรศรี” เป็นตัวอย่างของความงามและความประณีตของศิลปะจีนในยุคสมัยนั้น

งานศิลปะชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการใช้สีสัน, ลวดลาย, และเทคนิคการวาดภาพ

เทคนิคการวาด

ซุนกว่านใช้เทคนิคการวาดภาพแบบ “Gongbi” (工笔) ซึ่งเป็นเทคนิคการวาดภาพจีนโบราณที่มีความละเอียดสูง

  • เส้นสาย: ซุนกว่านใช้แปรงเพื่อสร้างเส้นสายที่เรียบเนียนและคมชัด

  • สีสัน: ซุนกว่านใช้สีน้ำที่ทำมาจากดอกไม้, หินแร่, และ

แม้กระทั่งอวัยวะของสัตว์

  • ลวดลาย: ซุนกว่านใช้ลวดลายแบบ “Floral and Geometric” (ดอกไม้และเรขาคณิต) เพื่อเพิ่มความสวยงามและความน่าสนใจให้กับภาพวาด

ตารางเปรียบเทียบเทคนิคการวาดภาพ

เทคนิค คำอธิบาย
Gongbi (工笔) ใช้เส้นสายที่คมชัดและสีสันที่ละเอียดอ่อน
Xieyi (写意) เน้นการใช้สีสันและจังหวะของแปรงเพื่อแสดงถึงความรู้สึกและอารมณ์

“วิหารของนางพรศรี” เป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปินซุนกว่าน ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมในการสร้างภาพวาดที่มีความงดงามทั้งในแง่ของสีสัน, ลวดลาย, และความหมายเชิงสัญลักษณ์

ผู้ที่ได้มีโอกาสชมภาพวาดชิ้นนี้จะต้องประทับใจในความละเอียดอ่อนและความยิ่งใหญ่ของงานศิลปะจีนโบราณ

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์

นอกจากความงามแล้ว “วิหารของนางพรศรี” ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สูง ภาพวาดชิ้นนี้เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวัน,

และมุมมองต่อโลกของชนชั้นสูงในสมัยราชวงศ์sui

งานศิลปะของซุนกว่านยังได้รับการยกย่องว่าเป็น

  • “ต้นแบบ” ของศิลปินรุ่นหลัง
  • เป็นส่วนหนึ่งของ “มรดกทางวัฒนธรรมของจีน”

สรุป

“วิหารของนางพรศรี” เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของซุนกว่าน ในด้านการใช้สีสัน, ลวดลาย, และเทคนิคการวาดภาพ

ภาพวาดชิ้นนี้ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ที่ช่วยให้เราเข้าใจชีวิตประจำวันและมุมมองต่อโลกของชนชั้นสูงในสมัยราชวงศ์sui

ตารางอ้างอิง

แหล่งข้อมูล
“Chinese Painting” (The Metropolitan Museum of Art)

| “Sun Quan and the Six Dynasties Period” (Britannica Encyclopedia) |